MYLOVECLUB DIARY

This blog is my diary on the topic of experience.I wanna write them in English for improvement my writing skill. If anyone would like to suggest anything, please let me know... Thks

2009-01-18

Eastbourne,UK

การเดินทางครั้งใหม่
17 Jan 09
เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ตั้งไว้เวลา สามนาฬิกาสามสิบนาทีดังขึ้น ในขณะที่ฉันนอนขด ม้วนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ พอฉันเริ่มขยับตัวเพื่อบิดขี้เกียจ ลากสังขารตัวเองไปปิดเสียงนาฬิกาปลุก ใจจริงอยากกลับไปนอนขดตัวใต้ผ้าห่มอีกครั้ง แต่พอนึกขึ้นได้ ว่าวันนี้ไปวันที่ฉันคิดว่า อาจเป็นการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในชีวิตอีกครั้ง หลังจากความรู้สึกนี้จบไปตั้งแต่ตอนฝึกงานเสร็จ นับเวลารวมก็เกือบประมาณสองเดือนเห็นจะได้ ฉันยกตัวขึ้นและบิดขี้เกียจอีกครั้ง รู้สึกว่าต้องทำตัวให้คล่องแคล่วพร้อมรับมือสิ่งที่กำลังรออยู่ ฉันเข้าห้องน้ำ มองตัวเองในกระจก มันก็คงเป็นเหมือนกิจวัตรที่ต้องทำทุกวัน ปกติฉันชอบให้กำลังใจตัวเองทุกเช้าด้วยการยิ้มและพูดกับกระจกว่า “โอเค ทำได้ สู้ๆๆ” แต่วันนี้ความรู้สึกต่างไปจากทุกวันเล็กน้อย วันนี้ฉันจะต้องขึ้นเครื่องบิน ไปประเทศอังกฤษ ประเทศที่ฉันรู้จักผ่านคำพูดของคนอื่น ผ่านการบอกเล่าด้วยตัวอักษร ทั้งในเรื่องที่ดีและเรื่องที่ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับฉันเหมือนที่คนไทยคนอื่นประสบพบเจอมา แต่ฉันก็บอกกับตัวเองว่า “สู้ๆ น้อยหน่า ทำได้อยู่แล้ว”
ถึงแม้จะรู้สึกทั้งดีใจ ตื่นเต้นและหวาดกลัวกับการเดินทางและการใช้ชีวิตที่อังกฤษนานถึง เจ็ดเดือน แต่มันก็รู้สึกหายไปหมด พอคนในครอบครัวโทรมาอวยพรให้ รวมทั้งเพื่อนๆที่น่ารัก บอกให้กำลังใจและอุตส่าห์ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อส่งที่สนามบิน ฉันและเพื่อนตกลงกันแล้วว่า เราจะไม่ร้องไห้กัน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้



พอบอกลาเพื่อนๆเข้าประตูไป หันมามองภาพเพื่อนเดินห่างออกไป ผ่านกระจกสีขุ่น มันเป็นภาพที่เศร้าจนบอกไม่ถูก พอขึ้นมานั่งบนเครื่องบิน กลับมีคำถามขึ้นมาอีกว่า ตอนที่ฉันไม่อยู่ที่เมืองไทย พวกเพื่อนจะลืมฉันไหม พวกมันจะคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า ฉันถามกับตัวเองในขณะนั่งอยู่บนเครื่องบินที่กำลังจะออกว่า ฉันจะทนได้ไหมกับการคิดถึงคนที่บ้าน เพื่อนๆ แล้วก็อาหารไทย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ


การนั่งเครื่องบินครั้งแรกของฉัน รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย มองออกไปนอนหน้าต่างเห็นทุกสิ่งที่ทุกอย่างเล็กลงๆ พอบินมาได้สักครู่หนึ่งก็รู้สึกเหมือนลอยอยู่บนสวรรค์ มองทอดสายตาออกไปด้านนอกก็เจอได้เมฆขาวโพลนเต็มไปหมด มองด้านล่างก็เป็นทะเลสีฟ้าครามไปหมด ฉันได้เรียนรู้อุปกรณ์บนเครื่องบินหลายอย่าง บางอย่างก็ไม่เคยเล่นมาก่อน
เครื่องบินของสายการบินการ์ต้าที่ฉันนั่งมา ต้องลงต่อเครื่องที่เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้า เมืองโดฮา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ส่วนในตัวเมืองการ์ต้าที่ฉันมองผ่านจากอาคารผู้โดยสาร เมืองการ์ต้าเหมือนเป็นเมืองเลโก้ เพราะตึกของที่นี้สร้างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเกือบทุกตึก แล้วแต่ละตึกก็จะสร้างประตูหรือหน้าต่างเยอะๆ ให้ความรู้สึกเหมือนได้เห็นเมืองตัวต่อเลโก้อย่างไงอย่างงั้น ผู้คนที่นี้ใช้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมัน และการก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ ภาษาที่ใช้หลักๆกัน คือ ภาษาอาหรับและภาษาอังกฤษ สำเนียงของคนที่นี้ฟังยากมาก พวกเขาพูดภาษาอังกฤษคล่องกันมาก แต่สำเนียงแบบอาหรับ
เครื่องบินที่ฉันต่อจากโดฮาไปลอนดอนดีเลย์ไปสัก สามสิบนาที ฉันกับหญิงก็เลยนั่งติดแหง่กอยู่ที่สนามบินนานาชาติ
การ์ต้า นานถึง สี่ชั่วโมงเห็นจะได้ แต่โชดดีที่นี้ ผู้คนที่มารอต่อเครื่องมีจำนวนน้อย พวกเราก็เลยนอนยืดแข้งยืดขา ถ่ายรูปเล่นกันเต็มที่


http://picasaweb.google.com/myloveclubnoina/EastbourneUK?feat=directlink

2 Comments:

Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความที่นำมาแบ่งปันให้กัน。◕‿◕。

January 25, 2009 at 7:21 PM  
Blogger Unknown said...

I did enjoy your story na Noina ^^ You take care jaa.

January 29, 2009 at 10:00 AM  

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home